วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ธรรมะของพระคุณเจ้าไพศาล วิสาโล

ใต้ร่มไม้
สารจากหมู่บ้าน

ราต้องฝ่าภูเขาสูงชันสองลูกกว่าจะถึงบ้านจะบูสี ลำพังเดินตัวเปล่าก็เหนื่อยแฮกแล้ว นี่ยังต้องขนสัมภาระขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะถุงนอน ผ้าห่ม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความหนาว บนยอดดอยแม่สะลอง
เพียงแค่ ๑๕ นาทีแรก เหงื่อก็ไหลโทรมกายคนทั้งคณะกว่า ๒๐ ชีวิต "จะแฮ" หนุ่มลีซอซึ่งกลับมาช่วยหมู่บ้านของตัว หลังจากจบปริญญา แนะว่าเดินเท่าที่เดินได้ แต่อย่าหยุดพัก จะทำให้เหนื่อยยิ่งกว่าเก่า เราเลยลองทำตามที่เขาว่า ทีนี้กลายเป็นการเดินแบบสโลว์โมชั่น เท้าค่อย ๆ ยก ย่าง แล้วก็เหยียบ ลมหายใจก็เข้าออกเป็นจังหวะตามไปด้วย ส่วนใจก็กำหนดอยู่กับการเดิน ไม่ต้องคิดถึงเป้าหมายว่าอยู่อีกไกลไหม ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไหร่จะถึง จะถึงช้าหรือเร็ว ก่อนหรือหลัง ก็ไม่เป็นไร
ไม่นานนักขาก็เคลื่อนขยับไปของมันเอง ราวกับเป็นอัตโนมัติ ที่เคยเหนื่อยก็เริ่มผ่อนคลาย คล้ายกับเดินทอดน่องยังไงยังงั้น พลอยให้ได้ชื่นชมทิวทัศน์รอบ ๆ ตัว ชั่วโมงเศษก็ข้ามสันเขา เดินลงสักพักก็เห็นหมู่บ้านแต่ไกล ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดดอยขนาดกะทัดรัด ช่างเลือกทำเลตั้งหมู่บ้านได้ดีอะไรอย่างนี้ ชวนให้นึกถึงบ้านเด็กเล่นที่อยู่บนหลังเต่า
จะบูสียังเลือกที่จะเป็นหมู่บ้านแบบดั้งเดิม ยกเว้นเสื้อผ้าอย่างคนสมัยใหม่แล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาไม่ห่างไกลจากอดีตเท่าไร ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีโทรทัศน์ หมูวิ่งเพ่นพ่านหาอาหารแข่งกับไก่ ตี ๕ ครึ่งก็ได้ยินเสียงครกกระเดื่องตำข้าวแล้ว เตาเผาเหล็กยังใช้มือสูบลมอยู่ จอบบิ่นมีดหักก็ไม่ต้องเข้าเมือง ตีเหล็กใกล้ ๆ กับครกกระเดื่องนี่แหละ
เมื่อถนนสายแม่จัน - แม่สะลองเสร็จใหม่ ๆ หลายคนในหมู่บ้านเคยย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ ถนน แต่ไม่นานก็ต้องกลับมาที่เดิม เหตุผลก็คือ อยู่ใกล้เมืองแล้วทนเขาเอาเปรียบไม่ไหว มาอยู่บ้านดีกว่าสบายใจดี ฝรั่งร่วมคณะหลายคนถามชาวจะบูสีว่าไม่อยากรวยหรือ บางคนบอกว่าไม่มีปัญญาจะรวยกับเขา บางคนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่หลายคนก็บอกว่าถ้าจะรวยก็ต้องทำงานหนัก ทุกข์เปล่า ๆ
ชาวจะบูสีก็คงเหมือนกับชาวมูเซออีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังกินอาหารแบบเดิม ๆ คือกินพืชผักไม่กี่ชนิดและส่วนใหญ่ก็หาได้จากในป่า มองตามมาตรฐานสมัยใหม่ ก็ถือว่าเป็นพวกล้าหลัง แต่วิถีชีวิตแบบนี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้ภูเขารอบ ๆ จะบูสียังมีป่าเขียวขจี การพิสมัยกับอาหารไม่กี่ชนิด ทำให้ชาวเขาที่นี่ ไม่มีความจำเป็นต้องถางป่าปลูกโน่นนี่มากมาย และเมื่อพึ่งพาอาหารป่าเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยจำต้องรักษาป่าเอาไว้ นี้นับว่าผิดกับชาวเขาหมู่บ้านอื่น มองไปยังเขาลูกข้างหน้าซึ่งเป็นที่ตั้งของชาวเขาอีกเผ่าหนึ่ง รอยถางเตียนมีให้เห็นเป็นหย่อม ๆ ไม่ต่างจากหัวคนที่ถูกแบตตาเลี่ยนไถเป็นแถบ ๆ
ถามว่า วิกฤตเศรษฐกิจเวลานี้กระทบจะบูสีมากแค่ไหน คำตอบก็คือ น้อยมาก แต่ถ้าจะมีคนภายนอกมาก่อกวนรังควาน เพราะเหตุเศรษฐกิจตกสะเก็ดละก็ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แน่นอนว่าจะบูสีไม่ใช่ทางเลือกของสังคมไทยในปัจจุบัน อย่างน้อยสังคมไทยก็คงไม่สามารถทำอย่างชาวจะบูสี ที่ตัดสินใจถอยจากถนนกลับมาสู่ถิ่นเดิมได้ แม้กระนั้น สังคมไทยก็ควรทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาจะบูสีเอาไว้ สาเหตุก็เพราะนั่นเป็นทางเลือกที่เขาตัดสินกันเอง ถึงเราจะไม่เลือกทางนี้ แต่ก็ควรรักษาทางเลือกต่าง ๆ ให้มีหลากหลาย
สังคมไทยจำเป็นจะต้องเดินหน้าต่อไป แต่จะบูสีก็สามารถเป็นบทเรียนสอนใจเราได้ว่า คนเรามีความสุขได้ โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุเงินทอง ฝรั่งร่วมคณะหลายคนบอกว่า คุ้มค่าที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่ เพราะเขาได้พบ "สาร" สำคัญที่สามารถนำกลับไปบอกเพื่อนร่วมชาติได้
ขณะเดียวกันคนอย่างวิคกี้ โรบิน เพื่อนร่วมคณะ ก็มีหลายอย่างที่สังคมไทยน่าจะเรียนรู้จากเธอได้ นอกเหนือจากหนังสือขายดี ที่เธอร่วมแต่ง (Your Money or Your Life) ซึ่งว่าด้วยการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแล้ว ตัวเธอเองก็อยู่อย่างง่าย ๆ ด้วย แม้เธอจะใช้จ่ายเพียงแค่วันละ ๑๕ เหรียญ ซึ่งนับว่าต่ำเอามาก ๆ ตามมาตรฐานของคนอเมริกัน แต่เธอกลับมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย มองภายนอกก็เหมือนนักท่องเที่ยวอเมริกันที่ดูมีระดับ ไม่ได้โทรมแบบฮิปปี้สะพายเป้ตามถนนข้าวสารเลย
เธอเล่าว่าที่ใช้เงินน้อย ก็เพราะปลูกผักสวนครัวและทำอาหารร่วมกับเพื่อน จึงเสียค่าอาหารไม่ถึง ๓ เหรียญต่อวัน เสื้อผ้าก็ซื้อจากร้านลดราคา หาไม่ก็เป็นของใช้แล้วมาก่อน แต่ละชิ้นใช้นับสิบปี ยิ่งรถยนต์ด้วยแล้วเธอใช้มา ๑๓ ปีแล้ว แต่ยังดูใหม่และใช้ได้ดี เพราะเอาใจใส่อยู่เสมอ การที่เธอใช้น้อย ทำให้ไม่จำเป็นต้องหาเงินมาก เลยมีเวลาเหลือสำหรับชีวิตส่วนตัวและช่วยเหลือสังคม
ชีวิตของเธอบอกเราว่า อย่าว่าแต่ความสุขเลย แม้กระทั่งมาตรฐานชีวิตก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ใช้เสมอไป ถึงแม้จะใช้น้อยลงแต่มาตรฐานชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องตกต่ำลง
สำหรับคนไทยยุคเศรษฐกิจล่มสลาย ชีวิตของวิคกี้และชาวจะบูสีสอนใจได้มากมาย.

1 ความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก

งานระดับสูง

งานระดับสูง
ชีวิตไม่มีวันตกต่ำ(ตกงานไม่กลัวกลัวตกนั่งร้าน)

2530

2530
หนุ่มผมยาว

ยุคแสวงหา

ยุคแสวงหา
2536 หาอะไรไม่รู้

ตากล้อง

ตากล้อง
เป็นท่าที่ดูดีที่สุด